วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

บทที่ 3


บทที่ 3
แนวความคิดโครงการ

แนวความคิดโครงการ คือ การนำเสนอความสัมพันธ์ในเรื่องขององค์ประกอบต่างๆภายในโครงการ โดยการนำเสนอความต้องการของโครงการในส่วนต่างๆว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด โดยการกำหนดแนวทางในการออกแบบโดยเน้นความเป็นไปได้ในการออกแบบ ซึ่งการกำหนดแนวความคิดในการออกแบบโครงการอาจมีหลายแนวความคิด โดยในขั้นตอนสุดท้ายในการกำหนดแนวความคิดโครงการอาจนำเอาข้อดีของแนวความคิดทั้งหมดมารวมกันแล้วนำมาสรุปอีกครั้งเพื่อให้ได้แนวความคิดโครงการที่เหมาะสมมากที่สุด
โครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเป็นโครงการพิพิธภัณฑ์ที่ส่งเสริมด้านการเรียนรู้และปลูกฝั่งในเรื่องการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป้าหมายของโครงการต้องการที่จะให้โครงการเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีความเป็นสากล มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งก่อนที่จะเริ่มการวางแนวความคิดโครงการควรเริ่มจากการกำหนดรูปแบบเพื่อเป็นแนวทางในการวางแนวความคิดโครงการต่อไป ซึ่งจะแยกเป็นหัวข้อต่างๆได้ดังนี้
1.รูปแบบทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ของโครงการมีความสอดคล้องกับตัวโครงการซึ่งเป็นโครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำด้วยการสื่อสารออกมาทางรูปแบบของอาคารและวัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ
2.ที่ว่างภายในและภายนอกของอาคารมีความต่อเนื่องกันสามารถสื่อสารให้ผู้ใช้โครงการรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ใต้ทะเลและใช้สภาพแวดล้อมของโครงการในการเพิ่มจุดเด่นของโครงการ
3.โครงการใช้ระบบพิเศษต่างๆในการก่อสร้างหรือใช้ในส่วนนิทรรศการถาวรในเรื่องของการใช้แสงและแท็งก์ปลา
จากในความคิดเบื้องต้นสามารถนำมาอธิบายความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องกัน โดยจะสามารถแยกแนวความคิดออกได้เป็น 4 ด้าน ดังนี้
3.1แนวความคิดด้านหน้าที่ใช้สอย(Function Concepts)
            3.2แนวความคิดด้านรูปแบบ(Form Concepts)
            3.3แนวความคิดด้านเศรษฐศาสตร์(Economy Concepts)
            3.4แนวความคิดด้านเทคโนโลยี(Technology Concepts)



3.1แนวความคิดด้านหน้าที่ใช้สอย (Function Concepts)
            แนวความคิดด้านหน้าที่ใช้สอยเป็นการกำหนดกิจกรรมที่จะสอดคล้องกับที่ว่างภายในและรูปแบบของสถาปัตยกรรม โดยจะพิจารณาเป็นส่วนๆแยกตามองค์ประกอบตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยจะแยกการนำเสนอออกเป็นส่วนๆดังนี้
            3.1.1ภาพรวมของโครงการ (Overall project)
            3.1.2ส่วนองค์ประกอบหลักโครงการ (Main –Function Zone)
- ส่วนนิทรรศการถาวร (ส่วนจัดแสดงพันธุ์ปลา) ส่วนนิทรรศการชั่วคราวและส่วน    จัดแสดงโชว์กลางแจ้ง
            3.1.3ส่วนองค์ประกอบรองโครงการ (Sub –Function Zone)
                        - ส่วนห้องประชุม ศูนย์การเรียนรู้และส่วนวิจัย
            3.1.4ส่วนสนับสนุนโครงการ (Support Zone)
                        - ส่วนร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกของโครงการ
            3.1.5ส่วนสาธารณะ (Public Zone)
3.1.6ส่วนบริหารโครงการ (Administration Zone)
            3.1.7ส่วนบริการอาคาร (Service Zone)
                        -แยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนบริการโครงการและส่วนบริการของส่วนจัดแสดง
3.1.8ส่วนจอดรถ (Parking Zone)

โดยแต่ละส่วนจะมีการกำหนดแนวความคิดโครงการ(Programming Concept) ตามแนวความคิดที่สัมพันธ์กับข้อมูลพื้นฐาน โดยมีสามารถแสดงรายละเอียดของแต่ละองค์ประกอบโครงการ ด้วยหัวข้อแนวความคิดต่างๆดังนี้
           
1.แนวความคิดที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์(Relationship)
            2.แนวความคิดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม
            3.แนวความคิดที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการ(Operation)





3.1.1ภาพรวมของโครงการ (Overall Project)

1.แนวความคิดที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์(Relationship)

เป็นการแสดงแนวความคิดที่สัมพันธ์กับที่ว่าง การสัญจร กิจกรรมต่างๆภายในโครงการโดยในกิจกรรมที่เกิดขึ้นนั้นในแต่ละองค์ประกอบต้องมีความต่อเนื่องเป็นเรื่องราวเดียวกันซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานโครงการได้ โดยมีการแบ่งองค์ประกอบต่างดังนี้

1.ส่วนจัดแสดง (Exhibition Zone)
           
ในส่วนจัดแสดงจะแยกเป็น 3 ส่วนหลักๆคือ ส่วนจัดแสดงถาวร ส่วนจัดแสดงชั่วคราวและส่วนจัดแสดงโชว์กลางแจ้ง

1.1ส่วนจัดแสดงถาวร เป็นส่วนของ Aquarium ที่จะมีการแสดงพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆซึ่งจะแยกออกเป็นโซนต่างๆซึ่งในแต่ละโซนจะแสดงพันธุ์สัตว์น้ำและเรื่องราวการนำเสนอที่ต่างกัน โดยจะมีเรื่องราวของแต่ละโซนจะนำเสนอรายละเอียดในช่วงต่อไป ซึ่งจะอยู่ด้านในสุดของโครงการและสามารถเชื่อมต่อกับส่วนวิจัย ส่วนบริหารได้เพื่อความสะดวกในการวิจัย
1.2ส่วนจัดแสดงโชว์กลางแจ้ง เป็นส่วนจัดแสดงโชว์ปลาโลมาซึ่งจะอยู่กลางแจ้งในส่วนจัดแสดงโชว์จะไม่เปิดทำการแสดงทุกวันแต่จะเปิดแค่วันเสาร์อาทิตย์ซึ่งจะอยู่ติดกับส่วนจัดแสดง ส่วนวิจัย ส่วนบริการของส่วนจัดแสดงถาวร เพื่อความสะดวกในการดูและสัตว์น้ำทั้งที่ใช้แสดงและภายในรวมทั้งงานระบบของโครงการด้วย

2.ส่วนร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกของโครงการ (Food loft & Souvenir Shop)
           เป็นส่วนร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกของโครงการโดยในส่วนร้านอาหารจะรองรับผู้ใช้งานโครงการซึ่งในส่วนนี้ควรจะติดกับส่วนบริการเพื่อความสะดวกในการขนย้ายขนส่งสินค้าโดยจะแยกเส้นทางในส่วนนี้ซึ่งเป็นเส้นทางบริการออกจากเส้นทางหลักเพื่อควบคุมกลุ่มผู้ใช้โครงการได้เป็นสัดส่วนและเป็นให้โครงการดูเป็นระเบียบมากขึ้น
 3.ส่วนสาธารณะ (Public Zone)
         เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการทำหน้าที่เชื่อมพื้นที่ส่วนต่างๆเข้าด้วยกันและเป็นโถงที่หลักที่ทำหน้าที่ในการรวมผู้ใช้งานโครงการก่อนที่จะแจกเข้าสู่ส่วนต่างๆของโครงการ
 4.ส่วนบริหารโครงการ (Administration Zone)
         ส่วนบริหารเป็นส่วนที่ทำหน้าที่บริหารโครงการ โดยผู้ใช้งานในส่วนนี้คือ ผู้บริหารและพนักงานในส่วนต่างๆในส่วนบริหารของโครงการควรจะอยู่ในที่ที่เข้าถึงได้ง่ายแต่ควรจะมีการแยกทางเข้าของส่วนบริหารให้แยกกับส่วนทางสัญจรหลัก
 5.ส่วนบริการโครงการ (Service Zone)
         เป็นส่วนของงานระบบห้องเครื่องต่างๆรวมไปถึงส่วนห้องเก็บของและส่วนซ่อมบำรุงของโครงการโดยในโครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจะแยกส่วนบริการออกเป็นสองส่วนคือส่วนบริการโครงการโดยรวมและส่วนบริการของส่วนจัดนิทรรศการในส่วนบริการนั้นต้องมีทางเข้าที่สามารถเข้าได้ทุกองค์ประกอบโดยเส้นทางสัญจรนั้นต้องแยกออกจากเส้นทางสัญจรของผู้ใช้โครงการอื่นๆอย่างชัดเจน
 6.ส่วนจอดรถ (Parking Zone)
         ส่วนจอดรถของโครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนั้นเป็นส่วนที่ใช้จอดรถต่างๆไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว รถบัส รถในส่วนของบริหาร รถในส่วนของบริการ โดยต้องมีทางเข้าจากที่จอดรถที่สามารถเข้าสู่โครงการได้อย่างสะดวกและใกล้รวมถึงในส่วนที่จอดรถของส่วนบริหารและบริการก็ต้องมีความสะดวกในการขนย้ายของเข้าสู่โครงการและมีการจัดเส้นทางการเดินรถของส่วนจอดรถของผู้ใช้โครงการและส่วนของเจ้าหน้าที่ผู้บริหารโครงการให้ชัดเจน

2.แนวความคิดที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม
            แนวความคิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเป็นส่วนที่วิเคราะห์เกี่ยวกับกิจกรรมที่มาจากประเภทของโครงการและพฤติกรรมของผู้ใช้งานโครงการโดยนำมาพิจารณาและวิเคราะห์แล้วนำไปกำหนดรายระเอียดของพื้นที่ใช้สอยและกิจกรรมโดยการจัดกลุ่มกิจกรรมของโครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ก.การจัดกลุ่มกิจกรรม(Activities Grouping)
ข.ลำดับความสำคัญของกิจกรรม (Sequence of Activities)
แสดงความสำคัญของกิจกรรม
In   เข้าสู่โครงการ   ซื้อบัตร ชมนิทรรศการถาวร   ชมการแสดงโชว์   ออกจากส่วนจัดแสด ง ซื้อของที่ระลึกและรับประทานอาหาร   ออกจากโครงกา  ร  out
แสดงความสัมพันธ์ระหว่างลำดับของกิจกรรมกับกลุ่มผู้ใช้โครงการรอง
In  เข้าสู่โครงการ  เข้าสู่โถงหลัก  ปฏิบัติงาน  รับประทานอาหาร  ปฏิบัติงาน  ออกสู่โถงหลัก  ออกจากโครงการ  out


แสดงความสัมพันธ์ระหว่างลำดับของกิจกรรมกับกลุ่มผู้ใช้โครงการรองประเภทกลุ่มพนักงานบริหารโครงการ
In    เข้าสู่โครงการ       เข้าสู่ส่วนโถงหลัก   ปฏิบัติงาน   รับประทานอาหาร    ปฏิบัติงาน       ออกสู่โถงหลัก      ออกจากโครงการ   out
แสดงความสัมพันธ์ระหว่างลำดับของกิจกรรมกับกลุ่มผู้ให้บริการอาคาร
In   เข้าสู่โครงการ   เข้าสู่ส่วนโถงหลัก   ปฏิบัติงาน   รับประทานอาหาร   ปฏิบัติงาน   ออกสู่โถงหลัก     ออกจากโครงการ  out
ค.ลำดับความสำคัญของผู้ใช้(Order of Importance)
ง.ความต้องการใช้พื้นที่ของกิจกรรม(Activity Requirements)
กิจกรรมหลักของโครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเล หัวหิน คือ   ส่วนจัดแสดงซึ่งในส่วนนี้จะแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมหลักๆ คือส่วนแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่จัดแสดงในตู้จัดแสดงโดยจะมีการจำลองระบบนิเวศทางทะเลเพื่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนกำลังเดินชมอยู่ในท้องทะเลจริงๆและส่วนจัดแสดงชั่วคราวที่
หมุนเวียนงานวิจัยหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องมาจัดแสดง อีกส่วนคือส่วนจัดแสดงโชว์กลางแจ้งซึ่งเป็นการโชว์ความสามารถของสัตว์น้ำที่ถูกฝึกมา
ส่วนของ Giant Tank โดยจะเป็นส่วน highlight ของโครงการซึ่งเป็นแท็งก์ขนาดใหญ่ที่เลี้ยงสัตว์น้ำไว้หลายชนิด โดยจะมีการแสดงการดำน้ำให้อาหารปลาในส่วนนี้ด้วย โดยมีการใช้แสงสว่างช่วยในการสื่อให้ผู้ใช้โครงการได้รับรู้ถึงที่ว่างที่เหมือนอยู่ใต้ท้องทะเล
ส่วนของอุโมงค์ทางเดินยาวให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ใต้ท้องทะเลโดยมีฝูงปลาว่ายอยู่ข้างบนทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนกำลังใช้ชีวิตอยู่ในใต้ท้องทะเลและยังรู้สึกใกล้ชิดกับปลาอีกด้วย
ลานกิจกรรมบริเวณหน้าโครงการเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมและเป็น
3.แนวความคิดที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการ(Operation)
ก.ระบบบริการ(Service Management)
 3.1.1 ส่วนองค์ประกอบหลักโครงการ
3.1.2 ส่วนองค์ประกอบรองโครงการ

3.2แนวความคิดด้านรูปแบบ(FORM CONCEPTS)
            แนวความคิดโครงการด้านรูปแบบแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
            3.2.1หลักเกณฑ์การเลือกที่ตั้งโครงการ(Criteria for Site Selection)
                        3.2.2แนวความคิดโครงการด้านจินตภาพ(Image Concept)
3.2.1หลักเกณฑ์การเลือกที่ตั้งโครงการ(Criteria for Site Selection)
            โครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเล หัวหิน เป็นโครงการที่จัดแสดงพันธ์สัตว์น้ำในลักษณะพิพิธภัณฑ์ที่จะให้ผู้เข้าใช้โครงการได้รับรู้ถึงการเข้าชมโดยจะรู้สึกเหมือนกับเดินอยู่ใต้ท้องทะเลจริงๆ ซึ่งในที่นี้จะส่งผลถึงการเลือกพื้นที่ตั้งโครงการที่จะช่วยส่งเสริมโครงการให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นและทางรูปแบบทางสถาปัตยกรรมทั้งที่ว่างภายในและภายนอกซึ่งหลักในการพิจารณาการเลือกพื้นที่ตั้งโครงการมีดังนี้
            1.หลักเกณฑ์ในการเลือกที่ตั้งโครงการ
            2.หลักเกณฑ์ในการเปรียบเทียบที่ตั้ง
1.หลักเกณฑ์ในการเลือกที่ตั้งโครงการ
มีหลักในการเลือกโดยจะกำหนดศักยภาพของพื้นที่ที่จะช่วยสนับสนุนโครงการให้มีจุดเด่นและมีที่ว่างที่เชื่อมต่อกันทั้งภายในและภายนอก ซึ่งจะเลือกที่ตั้งแยกเป็น 3 ที่ซึ่งมีขนาดและศักยภาพที่ใกล้เคียงกัน โดยหลักในการเลือกที่ตั้งโครงการมีดังนี้
1.    แหล่งทรัพยากร (LOCAL RESOURCE) มีทรัพยากรที่เกื้อหนุนและสอดคล้องกับโครงการมากแค่ไหน
2.    ข้อจำกัดทางกฎหมาย (LAWS) มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคหรือเกื้อหนุนหรือไม่
3.    กิจกรรมหรือโครงการสนับสนุน (IMPORTANT LINKAGE) มีความเชื่อมโยงกับกิจกรรมพื้นที่หรือโครงการที่จะสนับสนุนให้ดีขึ้นหรือไม่
4.    ระบบการขนส่ง (TRANSPORTATION) มีเส้นทางคมนาคมระบบจราจรขนส่งอย่างไร
ความปลอดภัย (SAFETY) มีความปลอดภัยแค่ไหน
 2.หลักเกณฑ์ในการเปรียบเทียบที่ตั้ง
           นำเอาหลักเกณฑ์ในการเลือกที่ตั้งโครงการมาทำการวิเคราะห์และหาศักยภาพของที่ดินโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบและปัจจัยต่างๆที่สอดคล้องกับโครงการ
3.2.2แนวความคิดโครงการด้านจินตภาพ(Image Concept)
         แนวความคิดโครงการด้านจินตภาพของโครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทะเล หัวหิน นั้นเป็นโครงการที่จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำซึ่งรูปแบบทางสถาปัตยกรรมต้องสื่อออกมาให้ผู้ใช้โครงการหรือบุคคลภายนอกรับรู้ได้ถึงโครงการและการเชื่อมต่อของที่ว่างทั้งภายในภายนอกโดยแยกออกเป็นแนวความคิดได้ดังนี้
            1.แนวความคิดโครงการด้านจินตภาพภายนอกโครงการ
            2.แนวความคิดโครงการด้านจินตภาพภายในโครงการ
 1.แนวความคิดโครงการด้านจินตภาพภายนอกโครงการ
           อาคารมีความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมและต้องสามารถสื่อให้ผู้ใช้โครงการรับรู้ได้ว่าเป็นโครงการพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
 2.แนวความคิดโครงการด้านจินตภาพภายในโครงการ
         มีการจัดที่ว่างภายในโดยสามารถเชื่อมต่อและสอดคล้องกับที่ว่างภายนอก โดยที่ว่างภายในจะมีการจัดในส่วนของพื้นที่จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำให้ผู้ใช้โครงการรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ใต้ท้องทะเลและในส่วนของแท็งก์จัดแสดงพันธุ์ปลาจะมีการจัดเพื่อให้ความรู้สึกเหมือนระบบนิเวททางธรรมชาติมากที่สุด
 3.3แนวความคิดด้านเศรษฐศาสตร์(Economy Concepts)
 การกำหนดแนวความคิดทางด้านเศรษฐศาสตร์มีหลายประเด็นแต่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโปรแกรมทางสถาปัตยกรรม หัวข้อที่พิจารณา สามารถแบ่งได้เป็น 2 แนวทางคือ
- การควบคุมงบประมาณโครงการ(Budget Control)
 - การควบคุมคุณภาพอาคาร (Building Quality Control)
 3.3.1 ประสิทธิภาพอาคาร   (Building Efficiency) ประกอบด้วย
 -พื้นที่ใช้งานสุทธิ (Assignable Area) คือพื้นที่รวมของทุกๆพื้นที่ใช้สอยที่
ต้องการตามโปรแกรม
 -พื้นที่สนับสนุน(Unassigned Area) คือพื้นที่ที่นอกเหนือจากพื้นที่ใช้งานโดย
เฉพาะพื้นที่ทางสัญจร ห้องเครื่อง ห้องน้ำส่วนรวม ห้องเก็บของผนังกั้นต่างๆ โดยไม่รวมพื้นที่จอดรถซึ่งแตกต่างไปตามกฎหมายของแต่ละท้องที่ และพื้นที่ใช้งานภายนอก (Outdoor Space) เพราะถือเป็นพื้นที่ใช้งานแต่อยู่ภายนอกอาคาร
 -สัดส่วนประสิทธิภาพของอาคาร   (Efficiency Ratio) คือสัดส่วนร้อยละของ
พื้นที่สนับสนุนต่อพื้นที่ใช้งานสุทธิ มีระดับโดยทั่วไปอยู่ 3 ระดับ คือ
 1.ระดับดีมาก                 อัตราส่วน          40 50 %       ของพื้นที่ทั้งหมด
 2.ระดับปานกลาง           อัตราส่วน          30 %               ของพื้นที่ทั้งหมด
 3.ระดับประหยัด             อัตราส่วน           20 %               ของพื้นที่ทั้งหมด

โดยทั่วไปแล้วสัดส่วนขององค์ประกอบต่างๆของโครงการอาจมีสัดส่วนที่แตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับความสำคัญ หรือประเภทผู้ใช้ในองค์ประกอบนั้น ทั้งนี้จากภาพรวมที่ต้องการประสิทธิภาพของอาคารให้ อยู่ในระดับที่ดี สัดส่วนโดยประมาณ โดยรวมของโครงการ สัดส่วนพื้นที่ใช้งานสุทธิต่อพื้นที่สนับสนุนจึงกำหนดเป็น 70 : 30
 สำหรับการกำหนดแนวความคิดสัดส่วนประสิทธิภาพที่แยกตามองค์ประกอบต่างๆของโครงการ มีดังนี้

องค์ประกอบโครงการ
พื้นที่ใช้สอย
( %)
พื้นที่สัญจร(%)
1.ส่วนจัดแสดง
2.ส่วนบริหาร
3.ส่วนวิจัย และทดลอง
4.ส่วนร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก
5.ส่วนบริการอาคาร
6.ส่วนจอดรถ
70
65
70
60
85
80
30
45
30
40
15
20
ตาราง 3.1 ตารางแสดงการแบ่งสัดส่วนประสิทธิภาพอาคารตามองค์ประกอบโครงการ
 







 3.3.2 คุณภาพอาคาร (Building Quality Control)
 คุณภาพของอาคารสามารถบอกด้วยราคาค่าก่อสร้างต่อตารางเมตร ซึ่งโดย
 ทั่วไปรวมถึงงานสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ระบบสุขาภิบาลแต่ไม่รวมถึงอุปกรณ์พิเศษที่ติดตั้ง สำหรับอาคารเพื่อการศึกษามีการประเมินค่าก่อสร้าง ดังนี้
 3.4แนวความคิดด้านเทคโนโลยี(Technology Concepts)
             แนวความคิดโครงการทางด้านเทคโนโลยี เป็นการเลือกประเภทของเทคโนโลยีอาคารให้เหมาะสมกับประเภทและลักษณะของโครงการโดยอ้างอิงจากบทที่2 ข้อมูลพื้นฐานโครงการ และสอดคล้องกับบทที่1 เป้าหมายโครงการ เพื่อใช้ในการพิจารณาหา บทที่4 ในส่วนของรายละเอียดโครงการทางด้านเทคโนโลยี
            โดยแนวความคิดโครงการทางด้านเทคโนโลยีของสถาบันส่งเสริมศิลปศาสตร์แฟชั่นนานาชาติ มีรายละเอียดที่ใช้ในการคำนึงถึง ดังนี้
               -ระบบโครงสร้างอาคารต้องเหมาะสมและตอบรับกับรูปแบบอาคาร
             -ระบบเทคโนโลยีอาคารและระบบการก่อสร้างต้องมีประสิทธืภาพที่ดีที่สุด ในปริมาณราคาที่ต่ำที่สุด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน
              -ระบบเทคโนโลยีอาคารมีความเหมาะกับการใช้งานของอาคาร
          -ระบบเทคโนโลยีอาคารมีราคาค่าติดตั้ง และค่าบำรุงรักษาในระยะยาว ที่ไม่สมควรแพงเกินไปนัก เพื่อลดต้นทุนในการลงทุน
             -ระบบเทคโนโลยีอาคารต้องมีความปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว
              -ระบบเทคโนโลยีอาคารต้องอายุยืนยาวในการใช้งาน
           -ระบบเทคโนโลยีอาคารต้องสามารถช่วยประหยัดพลังงานอาคารได้ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
                โดยรายละเอียดแนวความคิดโครงการทางด้านเทคโนโลยีอาคารมี 2ส่วนดังนี้
 3.4.1ระบบอาคาร(Building System)
 3.4.2ระบบเทคโนโลยีพิเศษ(Specific Technology)
 3.4.1ระบบอาคาร(Building System)
1ระบบโครงสร้างอาคาร(Building Structure)
ระบบโครงสร้างเสา-คานเป็นแบบระบบเสาและคานคอนกรีตเสริมเหล็ก เนื่องจากราคาไม่แพงมากนัก และง่ายต่อการก่อสร้าง ประกอบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการก่อสร้างจึงไม่มีขอบเขตในการก่อสร้างในระบบเสาและคานคอนกรีต
1.2ระบบโครงสร้างหลังคา
-ระบบโครงสร้างแบบ Flat Slab
ระบบโครงสร้างหลังคาแบบFlat Slab คล้ายคลึงกับโครงสร้างพื้น เพียงแต่ต้องมีวัสดุกันความร้อน และวัสดุกันความชื้น
-ระบบแบบ Truss
ระบบหลังคาแบบโครงสร้างเหล็ก 2มิติ เป็นโครงสร้างที่มีเพื่อส่วนที่มีการดัดโค้ง หรือรูปทรงแปลก ง่ายต่อการบุวัสดุมุง และตกแต่งองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม



-ระบบแบบ Space Truss
              ระบบหลังคาแบบโครงสร้างเหล็ก 3มิติ เป็นโครงสร้างที่แสดงรูปทรงบางจุด เช่นโดม หรือรูปทรงต่างที่ต้องการการถ่ายแรงน้ำหนีชักได้ดี และส่งผลให้รูปลักษณ์อาคารสวยงาม
2.ระบบปรับอากาศ(Air-Conditioning)
-ระบบปรับอากาศแบบ Split Type
             
              ส่วนพื้นที่ที่มีการใช้ระบบปรับอากาศแบบช่วงเวลา เช่น ห้องเรียนหรือส่วนห้องทำงาน ก็ควรจะใช้ระบบปรับอากาศระบบนี้ เพื่อความประหยัด
-ส่วนระบบปรับอากาศแบบเครื่องทำน้ำเย็นระบายความร้อนด้วยน้ำ
(Water Cooled Water Chiller)
              ส่วนที่ต้องใช้ระบบปรับอากาศแบบตลอดเวลา หรือพื้นที่การใช้งานมีขนาดใหญ่เช่นส่วนสาธารณะ หรือส่วนจัดแสดงนิทรรศการควรจะใช้ระบบนี้

3.ระบบสุขาภิบาล
3.1ระบบประปา
-ระบบประปาใช้แบบระบบFeed Down เนื่องจากเป็นกลุ่มอาคาร ความสูง3-4ชั้นจึงควรใช้ระบบนี้เนื่องจากส่งน้ำได้ดีกว่าระบบอื่น
3.2ระบบน้ำเสีย
           -ระบบน้ำเสียแบบทั่วไปโดยแยกเป็นระบบน้ำเสียจากอ่างหน้า ระบบน้ำเสียจากท่อ และระบบน้ำเสียจากห้องครัว โดยระบายมาตามท่อแนวนอน แล้วมารวมกันในท่อแนวตั้งแล้วจึงนำไปบำบัดก่อนปล่อยสู่ท่อน้ำเสียสาธารณะ โดยอุปกรณ์ร่วมระบบระบายน้ำเสีย คือ ที่ดักกลิ่น ตะแกรงดักกลิ่น และที่ดักไขมัน
           3.3ระบบโสโครก
- ระบบน้ำโสโครกเป็นระบบที่ระบายของเสียจากโถส้วม และโถปัสสาวะโดยระบบเดินท่อ จะมีท่อแนวนอนที่ต่อออกจากแหล่งกำเนิดสิ่งโสโครก และท่อแนวตั้งที่เป็นท่อรวมท่อแนวนอนก่อนนำไปยังถังบำบัด โดยอุปกรณ์ร่วม คือช่องทำความสะอาดท่อ
-ระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศ ระบบนี้เหมาะกับอาคารขนาดกลาง ซึ่งง่ายต่อการดูแลรักษา มีประสิทธิภาพดี และราคาไม่แพง

4ระบบไฟฟ้ากำลัง(Electricity)
-ระบบไฟฟ้ากำลังแบบ Sub-station
              เนื่องจากต้องการของกำลังไฟฟ้าสูง เพื่อความสะดวกสบายของโครงการในการจ่ายปริมาณไฟฟ้าจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องแยกหม้อแปลงไฟฟ้าออกมาต่างหาก โดยแยกส่วนเป็นของภายในโครงการจากระบบไฟฟ้าสาธารณะโดยทั่วไป

5.ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน(Emergency System)

           -ระบบไฟฟ้าฉุกเฉินแบบดีเซล เป็นระบบที่ทำงานอัตโนมัติ คือ หลังจากที่ไฟฟ้าเมนดับระบบจะสตาร์ทเครื่องและมีสวิทซ์สับเปลี่ยนจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญ
              -ระบบไฟฟ้าฉุกเฉินแบบแบตเตอร์รี่ จะถูกติดตั้งเพื่อให้แสงสว่างในระหว่างที่รอไฟจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
6.ระบบป้องกันฟ้าผ่า(Lighting Protection System)
             
              ระบบป้องกันไฟฟ้าแบบนี้สามารถป้องกันฟ้าผ่ารอบอาคารได้ โดยส่วนประกอบสำคัญได้แก่
        1.สายล่อฟ้า
        2.สายนำลงดิน
         3.สายรายดิน

7.ระบบสื่อสารโทรคมนาคม(Communication)
             
              7.1ระบบโทรศัพท์(Telephone System)
           -ระบบโทรศัพท์ภายในอาคารหลังจาก เชื่อมสายจากองค์การโทรศัพท์กับห้องชุมสายแล้ว  สายโทรศัพท์จะแยกเข้าตู้สาขา เพื่อจัดระบบ และหมายเลข จากนั้นจะส่งไปยังแผงควบคุมในแต่ละชั้น
              -ระบบโทรศัพท์ ใช้สำหรับติดต่อระหว่างหน่วยงานในโครงการ 
              -ระบบโทรศัพท์สาธารณะสำหรับบุคคลทั่วไป
7.2ระบบโทรทัศน์วงจรปิด(CCTV System)
              -ระบบรักษาความปลอดภัยรวม และแยกส่วนตามจุดสำคัญของอาคาร
           ระบบโทรทัศน์วงจรปิดแบบระบบรักษาความปลอดภัยรวมของอาคาร โดยจะมีการติดตั้งกล้องตามตำแหน่งสำคัญ ได้แก่ ทางเข้า โถง ในลิฟท์ ร้านอาหาร และส่วนพื้นที่อื่นๆ ซึ่งจอภาพสามารถปรับเปลี่ยนการมองด้วยการตั้งเวลาในการดู เพื่อให้เกิดการมองพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง ในกรณีที่อาคารมีขนาดใหญ่และมีความต้องการในการรักษาความปลอดภัยสูง

8.ระบบป้องกันอัคคีภัยและระบบดับเพลิง(Fire Protection Extinguishers)
     8.1ระบบป้องกันอัคคีภัย
ใช้แบบระบบทั้ง Smoke Detector และ Heat Detector ซึ่งเมื่อเกิดเพลิงไหม้จะทำการแสดงผลไปยังห้องควบคุมเพื่อส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังระบบ Fire Detector System โดยระบบ Sprinkle ซึ่งเมื่อโดนความร้อนจนถึงอุณหภูมิที่กำหนดไว้ ปรอทจะแตกและปล่อยน้ำออก เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันภัยที่ดี
   
8.2ระบบดับเพลิง
    -ชนิดสายสูบ เป็นระบบท่อแห้งไม่มีน้ำอยู่ในสภาวะท่อปกติแต่มีอูปกรณ์ควบคุน้ำที่ส่งมาในท่อระบบนี้จะใช้คนนำสายสูบใช้ได้กับทุกมุม ความยาวสายทั่วไป 15, 23และ30 เมตร
-ชนิดโปรยน้ำสามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติคือการเดินท่อไปตามฝ้าเพดานแบบ GRIDโดยเว้นระยะให้หัวฉีดกระจายน้ำออกไปซึ่งน้ำในท่อจะมีความดันพร้อมจ่าย

              9.ระบบแสงสว่าง(Lighting)
       -การให้แสงทางตรง คือ แสงสว่างที่พุ่งตรงจากจุดกำเนิดแสงมาสู่สายตาเราโดยตรงโดยไม่มีวัสดุบัง ดวงโคมที่ให้แสงสว่างจะต้องสะท้อนแสงลงมาได้ประมาณ 90 % โดยการให้แสงทางตรงนั้นมักจะใช้ในการให้แสงสว่างในสำนักงาน โถง ส่วนแสดงแฟชั่นโชว์ส่วนแสดงนิทรรศการและสถานที่ที่ต้องการเน้นแสงเฉพาะจุด
      
       -การให้แสงกึ่งตรง คือ การออกแบบให้แสงสว่างออกจากด้านล่าง ของแหล่งกำเนิดแสงโดยตรงเพียงประมาณ 60-90% ของปริมาณแสงทั้งหมด และกำหนดให้แสงส่วนที่เหลือฉายขึ้นไปกระทบเพดานส่วนหนึ่งและสะท้อนกระจายออกไป การเลือกใช้แสงแบบกึ่งตรงนั้นจะใช้สำหรับสำนักงาน ห้องเรียน และสถานที่ต่างๆที่ต้องการแสงสว่างเฉลี่ยในระดับที่เสมอกันทั่วบริเวณ
12.ระบบขยะ
          ระบบการจัดเก็บขยะใช้แบบแยกขยะเปียก และแห้ง ซึ่งสามารถแยกขยะในเบื้องต้นได้ก่อนที่จะออกนอกโครงการเพื่อนำไปกำจัด ซึ่งระบบนี้สามารถรักษาดูแลได้ง่าย และไม่เสียค่าใช้จ่ายมากในการจัดเก็บ
3.4.2 ระบบเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะโครงการ ( Specific   Technology)
ข้อมูลพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะ  สามารถนำมาสรุปเพื่อ เลือกใช้ให้มีความเหมาะสมกับโครงการ  โดยแบ่งตามหัวข้อต่างๆ ดังนี้
1.ระบบหมุนเวียนน้ำภายในส่วนจัดแสดง
- ระบบน้ำแบบเปิด         
            เป็นระบบน้ำที่ได้ความเป็นธรรมชาติของน้ำทะเลมากที่สุด  เหมาะที่จะใช้ในส่วนของAquarium ที่มีขนาดใหญ่ Giant Tank และเป็นระบบที่ใช้น้ำครั้งเดียว
- ระบบน้ำแบบปิด
เป็นระบบที่ต้องการปริมาณน้ำเพิ่มเติมน้อย  ควยคุมอุณหภูมิได้ง่ายเหมาะกับส่วน Aquarium  ที่มีขนาดเล็ก  Small  Tank  และเป็นระบบที่ต้องเตรียมพื้นที่สำหรับกรองน้ำ และน้ำใช้แล้วมีการหมุนเวียน
2.ระบบการให้อากาศในตู้เลี้ยง
เป็นระบบที่ใช้เครื่องปั้มลมขนาดใหญ่  ที่มีความดันลมมา จะต้องมีกระแสไฟฟ้าสำรองตลอด 24 ชม.

3.ระบบกำจัดน้ำเสีย
น้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลจะไม่สกปรกมากนัก  เนื่องจากมีสารอินทรีย์ละลายอยู่ในน้ำ  จึงควรบำบัดก่อนปล่อยทิ้งลงสู่สาธารณะ  โดยจัดให้มีบ่อสาหร่ายกลางแจ้งเพื่อดูดซับสารอินทรีย์ทำให้น้ำบริสุทธิ์ขึ้น

4.ระบบกรองน้ำ
ระบบการกรองน้ำ  เลือกใช้ระบบการกรองทางชีวภาพ  ที่ใช้ แบคทีเรียเป็นตัวกรอง   ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและยังเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย
5.ขนาดและวัสดุที่ใช้ทำ  Tank
วัสดุที่นำมาใช้ประกอบตู้แสดง  สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด  คือ
- กระจก    มีราคาถูกกว่า  ทนทานต่อการขูดขีด  ทำให้สะดวกต่อการทำความสะอาดหากเกิดตะไคร่เกาะ  แต่กระจกมีข้อเสียคือ  มีสีเขียวอ่อน  โดยจะเห็นได้ชัดเมื่อมีความหนาเกิน 2 หุน
- แผ่นอะคลิลิกใส   เป็นวัสดุที่ใส  ไม่มีสี  ทำให้มองเห็นสีสันสวยงามกว่า  มีน้ำหนักเบาสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย   แต่มีราคาแพงมาก  เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย  เมื่อใช้ไปนานๆ ก็จะเริ่มกลายเป็นสีเหลือง

การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับขนาดของถังแสดง
Giant  Tank   สามารถเลือกใช้กระจก   ชนิด  Temper- Laminated  เช่นกระจกหุนประกบ  2-3  ชั้นแล้วแต่ขนาดช่องมองที่สามารถทำด้วยกระจกได้  อยู่ในขนาดประมาณ  1.50 ม - 3.00  ม. หากจะใหญ่กว่านี้ต้องใช้  Acrylic  นำเข้าจากต่างประเทศ
-  Medium  Tank  & Small  Tank  ใช้กระจก Temper หรือ Temper- Laminated  แล้วแต่ขนาดตู้ปลา  Round  Tank ใช้  Acrylic  นำเข้าจากต่างประเทศ

ระบบโครงสร้างพิเศษ
            ระบบโครงสร้างท่อใต้น้ำ  เป็นระบบโครงสร้างที่อยู่ใต้น้ำ  โดยจะอยู่ในถังแสดงขนาดใหญ่  วัสดุที่นำมาใช้ เป็น  Acrylic Tunnel ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถทนต่อ แรงต้านของแรงดันน้ำได้ การจัดทำระบบนี้จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เพื่อความปลอดภัย






























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น